5 วิธีการดูแลรักษารถบรรทุกให้สามารถใช้งานได้ดี

รถบรรทุกเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้บรรทุกสิ่งของและใช้งานหนักตลอดเวลาการใช้งาน ดังนั้นการดูแลจะต้องมีความรอบคอบอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากไม่บำรุงดูแลรักษารถบรรทุกไม่ถนอมการใช้งานให้ดีแล้ว รถบรรทุกที่เราใช้อยู่ทุกวันอาจเกิดความเสียหายไม่ว่าจะเป็นความเสียหายในระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับปานกลางที่ความเสียหายอาจยังพอสามารถกลับไปใช้รถได้หรือความเสียหายระดับรุนแรงที่ไม่อาจกลับไปใช้รถได้อีก ฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือลดอัตราการเกิดอุบัติเหตจากความผิดพลาดจากรถบรรทุก ผู้ขับรถนั้นควรตรวจเช็คสภาพและหมั่นขยันดูแลรถบรรทุก เพื่อไม่ให้เกิดการอันตราย

1.ดูแลและบำรุงรักษายางรถบรรทุก

ลมยาง – การเติมลมยางที่เหมาะสมไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป ถ้าลมยางน้อยเกินไป จะทำให้ยางเกิดอาการบวมขาดล่อน อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ การสูบลมยางที่ดีคือการสูบลมยางทั้งสองข้างให้เสมอกัน ใช้แรงดันลมให้เหมาะกับยาง ถ้าเกิดยางข้างใดข้างนึงอ่อนกว่าจะทำให้การรับน้ำหนักนั้นน้อยลง ส่งผลให้ยางเกิดการสึกหรออายุการใช้งานก็จะน้อยลง

ขับขี่ในความเร็วที่เหมาะสม – การขับขี่รถบรรทุกด้วยความเร็วนั้นเป็นการลดอายุการใช้งานของยาง เพราะการขับรถด้วยความเร็วจะทำให้ยาง ดอกยางสึกหรอเร็วกว่าที่ควร, เกิดความร้อนสะสมในยางมากกว่าปกติ, ยางเกิดอาการบวมและระเบิดได้ง่าย ดังนั้นการขับรถบรรทุกในความเร็วที่เหมาะสมไม่เร็วจนเกินไป เป็นการบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานของยางได้

ไม่บรรทุกของหนักจนเกินไป – การแบกน้ำหนักที่หนักจนเกินไปจะทำให้ดอกยางนั้นเสื่อมสภาพได้ง่าย โครงผ้าใบบริเวณขอบยางอาจแตกหัก และอาจส่งผลให้ยางนั้นระเบิดได้ 

การดูแลรักษาศูนย์ล้อ – หากศูนย์ล้อรถบรรทุกมีความผิดปกติจะทำให้ยางสึกแบบขรุขระ สึกเร็ว จนทำให้การควบคุมพวงมาลัยทำได้ยาก 

 2.ดูแลหม้อน้ำรถบรรทุก

ตรวจสอบระดับน้ำ – ควรตรวจสอบระดับน้ำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆของหม้อน้ำ เช่น ทางน้ำต่าง พัดลมหม้อน้ำ สายพานหน้าเครื่องมีสภาพที่พร้อมใช้งานมากน้อยแค่ไหน หรือเสือมสถาพไปแล้ว

ตรวจสิ่งอุดตันในหม้อน้ำ – ควรตรวจเช็คสภาพของหม้อน้ำว่ามีสิ่งอุดตันอะไรเข้าไปในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสึกหรอของหม้อน้ำ

ตรวจสอบรอยรั่วซึม – ทุกจุดของหม้อน้ำที่ควรตรวจเช็ครอยรั่วซึมไม่ว่าจะเป็นสายท่อยางต่าง ๆ ของหม้อน้ำ ปั้มน้ำและวาล์วน้ำ ว่ามีตะกอน หรือ คราบน้ำ หากพบรอยรั่วให้ทำการซ่อมแซมหรือทำการเรียกช่างเทคนิคมาทำการตรวจสอบ

ตรวจสอบน้ำยาหล่อเย็น – ควรทำการเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นตามระยะที่กำหนด ทำการเติมน้ำยาหล่อเย็นให้เต็มและให้สังเกตสีของน้ำยาหล่อเย็นของเดิมที่อยู่ในหม้อน้ำ หากสีเปลี่ยนไปจากเดิมเช่น น้ำเริ่มเป็นสีสนิม ให้ทำการนำรถเข้าศูนย์บริการ หรือ อู่ เพื่อทำการเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็น

 3.ดูแลน้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝน

ตรวจสอบน้ำฉีดกระจก – ในการขับขี่รถบรรทุก กระจกรถบรรทุกจะต้องมีความสะอาดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้การขับรถบรรทุกมีความปลอดภัย ไม่ให้มีสิ่งสกปรกมาบดบังการมองเห็นของผู้ขับขี่  สามารถผสมน้ำยาล้างกระจกได้นิดหน่อยแบบเจือจาง เพื่อเพิ่มความใสให้กับกระจกขณะที่ปัดน้ำฝนทำงาน

4.ดูแลน้ำมันเครื่องรถบรรทุก

ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง – การดูแลน้ำมันเครื่องรถบรรทุกนั้นมีความสำคัญควรหมั่นตรวจสอบ 2-3 สัปดาห์ น้ำมันเครื่องจะเป็นของเหลวที่ช่วยในการบำรุงและหล่อเย็นเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่เกิดการสึกหรอ ผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คนปริมาณน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง แต่การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องควรให้ทางศูนย์บริการ หรือ ทางอู่ทำการเปลี่ยนถ่ายให้เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้และรถบรรทุก

5.ดูแลและบำรุงรักษายางอะไหล่รถบรรทุก

ตรวสอบยางอะไหล่ – ยางอะไหล่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นควรตรวจเช็คสภาพของยางอะไหล่อยู่บ่อยครั้งในกรณีที่ยางรถบรรทุกเกิดความเสียหาย แตก,รั่ว ยางอะไหล่จะเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วยแทนยางหลักได้ ดังนั้นการดูแลจึงเป็นสิ่งสำคัญให้ยางอะไหล่มีความพร้อมใช้งาน เติมลม หรือทำความสะอาด และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เกิน 5 ปีหากไม่ได้ใช้งาน ควรตรวจสอบสภาพยางให้ดียิ่งขึ้น

ที่ Macxtransport เราดูแลรถบรรทุกทุกคัน เพื่อจะให้บริการในการขนส่งได้อย่างมั่นใจ 

บทความล่าสุด